รูเล็ต (Roulette) เกมคาสิโนคลาสสิคอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยม ไม่ควรพลาด

รูเล็ต (Roulette) เกมคาสิโนคลาสสิคอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยม ไม่ควรพลาด

รูเล็ต หรือ Roulette

ถือเป็นอีกหนึ่งเกมคาสิโนสุดคลาสสิค ซึ่งเราจะได้เห็นกันบ่อยๆ ในหนังฝรั่งตั้งแต่ยังเด็ก โดยคำว่า รูเล็ต นั้นมีที่มาจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งแปลว่า “ล้อเล็กๆ” เพราะประดิษฐ์โดยชาวฝรั่งเศสชื่อว่า แบลซ ปัสกาล

ซึ่งเราจะเห็นว่าวิธีการเล่นก็คือทำการปล่อยลูกเหล็กกลมๆ วิ่งวนไปตามล้อหมุนซึ่งมีสีดำและแดงสลับกัน หล่นที่ช่องไหนก็ถือเป็นรางวัล โดยจำนวนช่องของทั้งหมดคือ 37 ช่องสำหรับฝรั่งเศสและยุโรป โดยเป็นเลข 0-36 ส่วนอเมริกาจะอยุ่ที่ 38 ช่อง โดยการเพิ่มช่อง 00 ขึ้นมาอีกช่องอยู่ตรงข้ามกับช่องเลข 0 นั่นเอง

กติการพื้นฐานของการแทง รูเล็ต
สำหรับวิธีการแทงนั้น เราจะแบ่งวิธีการแทงได้ดังต่อไปนี้

1. การวางเดิมพันแบบภายใน (inside)
นั่นคือการวางเดิมพันในส่วนที่เป็นตัวเลขตั้งแต่ 0-36 นั่นเอง
ทั้งนี้การแทง รูเล็ต แบบนี้ยังแบ่งได้อีก 2 ประเภทย่อยก็คือ

1.1 การวางแบบตัวเลขตัวเดียว
รูเล็ต
หรือจะเรียกว่าการแทงแบบตรง (Straight up) ซึ่งจะเป็นการวางลงไปที่ช่องตัวเลขตรงๆ อัตราการจ่ายคือ 35 เท่าไม่รวมทุน

1.2 การวางแบบคาบเกี่ยวหลายตัวเลข
การวางแบบคาบเกี่ยวหลายตัวเลข จะใช้วิธีการวางไว้ที่เส้นระหว่างช่องแต่ละช่อง บางครั้งอาจควบ 2 ช่อง บางครั้งอาจควบ 4 ช่อง หรือในกรณีที่เล่นแบบ 3 ช่องทั้งแถว ก็อาจจะวางไว้ที่เส้นขอบของช่องสุดท้ายในแถวนั้นๆ แทน โดยสามารถแยกประเภทได้ดังนี้

1.2.1 การวางเดิมพันแบบ split หรือ แบ่ง , แยก
รูเล็ต
จะใช้วิธีการวางบนเส้นคั่นระหว่างช่องเช่น 1/2 , 35/36 ซึ่งเป็นการแทงเลขที่อยู่ติดกันนั่นเอง โดยอัตราการคือ 17 เท่าไม่รวมทุน

1.2.2 การวางเดิมพันแบบสตรีท street (พ่วง)
รูเล็ต
ในชุดเลขแถว 3 ตัวเราจะเรียกว่า “สตรีท” โดยวิธีการวางก็คือวางไว้ที่ขอบเส้นช่องสุดท้ายของแถวนั่นเองเช่น 1, 2, 3 โดยอัตราการจ่ายคือ 11 เท่าไม่รวมทุน

1.2.3 การวางเดิมพันแบบมุม corner
รูเล็ต
จะเป็นการแทงเลข 4 ตัว โดยวางที่จุดตัดของช่องทั้ง 4 เช่น 1, 2, 4, 5 โดยอัตราการจ่ายคือ 8 เท่าไม่รวมทุน

1.2.4 การวางเดิมพันแบบเส้นตรง (line)
รูเล็ต
จะเป็นการแทงแบบเลข 6 ตัว เช่น 1-6 โดยให้วางชิพที่ขอบสตรีท 2 ชุดที่ติดกัน อัตราการจ่ายคือ 5 เท่าไม่รวมทุน

1.2.5 การวางเดิมพันแบบชุดกลุ่ม 0 , 00 , 1-3
รูเล็ต
หากวางที่เลข 0, 00 เพียงอย่างเดียว จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 17 เท่าไม่รวมทุน
หากวางที่เส้นเชื่อมเลข 0, 1, 2 หรือเส้นเชื่อมเลข 0, 2 , 3 จะเป็นการแทงแบบ 3 (หลัก) อัตราการจ่ายคือ 11 เท่าไม่รวมทุน
หากวางที่เส้นเชื่อมเลข 0 และ 1 เท่านั้น จะเป็นการแทงรวม 0, 1, 2, 3 อัตราการจ่ายคือ 8 เท่าไม่รวมทุน

2. การวางเดิมพันแบบภายนอก (outside)
สำหรับการเดิมพันแบบภายนอกของ รูเล็ต ก็คือเราจะวางเดิมพันในส่วนของตารางรอบนอกโดยแบ่งประเภทต่างๆ ออกเป็นดังนี้

2.1 การแทงสี
รูเล็ต
นั่นคือ สามารถเลือกได้ว่าจะแทงแบบ สีดำ (Black) หรือสีแดง (Red) อัตราการจ่ายคือ 1 เท่าไม่รวมทุน

2.2 การแทงคู่คี่
รูเล็ต
จะเป็นการแทงว่าเลขที่ออกจะเป็น เลขคู่ (Event) หรือ เลขคี่ (Odd)อัตราการจ่ายคือ 1 เท่าไม่รวมทุน

2.3 การแทงแบบสูงต่ำ
รูเล็ต
โดยตารางจะแสดงเป็นช่วงแบบ 1-18 (ต่ำ) , 19-36 (สูง) นั่นเอง อัตราการจ่ายคือ 1 เท่าไม่รวมทุน

2.4 การแทงแบบเลือกช่วง (หรือเต็งโซน)
รูเล็ต
การแทงแบบเลือกช่วงนั้นสามารถเลือกได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ 3 เซตตามแถวแนวตั้งเช่นแถวแนวตั้งแถวแรกคือ 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34 นั่นเอง
ส่วนกรณีช่วงแบบอื่นๆ แบบ 3 ช่วงจะแบ่งเป็น 1-12 , 13-24 , 25-36 อัตราการจ่ายคือ 2 เท่าไม่รวมทุน จะเห็นว่ามากกว่าข้ออื่นๆ ที่กล่าวมา สาเหตุเพราะว่าความน่าจะเป็นในการชนะอยู่ที่ 1 ใน 3 นั่นเอง ในขณะที่ข้ออื่นๆจะเป็นแบบ 50-50

ชั้นตอนการเล่น
โดยปกติในเกมทั่วๆ ไป ผู้เล่นจะต้องทำการแลกชิพกับเจ้ามือก่อน เพราะจะต้องใช้ชิพสีคนละชิพกันเพื่อป้องกันความสับสนนั่นเอง ทั้งนี้เมื่อเลิกเล่นและลุกจากโต๊ะแล้ว ก็ควรแลกคืนด้วยเนื่องจากชิพดังกล่าวไม่มีมูลค่า ในแต่ละรอบ เมื่อผู้เล่นจะทำการวางชิพสีให้เรียบร้อย เจ้ามือจะเริ่มโยนลูกรูเล็ต และเมื่อลูกลงสู่รางหมุนแล้วก็จะขาน No more bets แปลว่าไม่มีการเดิมพันเพิ่มเติม

สำหรับบทความนี้ก็ถือเป็นการแนะนำวิธีเล่น รูเล็ต เป็นที่เรียบร้อย จะเห็นว่าลูกกลมๆ เพียงลูกเดียวกับรางหมุน ก็สามารถแบ่งวิธีการเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ หากสนใจก็สามารถเล่นผ่านแอพคาสิโนออนไลน์ได้เลยทันที สนใจเริ่มเล่นสมัครได้เลย

ช่องทางเข้าเว็บไชน์ PC  + มือถือ

บทความที่เกี่ยวข้อง